ผงกล้วยดิบ แก้กรดไหลย้อน
ผงกล้วยดิบ แก้กรดไหลย้อน ประโยชน์ของกล้วย สามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคภัยไข้เจ็บนานา
- กล้วยมีธาตุเหล็กสูง กระตุ้นการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด จึงช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางได้
- กล้วยมีธาตุโพแทสเซียมสูง แต่มีปริมาณเกลือต่ำ ทำให้เป็นอาหารสมบูรณ์แบบที่จะช่วยลดความดันโลหิตได้ดี
- ปริมาณโพแทสเซียมสูงในกล้วยสามารถบำรุงสมองได้ดี ช่วยให้นักเรียนตื่นตัวในการเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะหากกินกล้วยในมื้อเช้าและมื้อกลางวัน ทุกวัน
- ปริมาณเส้นใยและกากอาหารที่มีอยู่ในกล้วยช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ แก้ปัญหาโรคท้องผูก
- กล้วยมีโปรตีน Try Potophan ช่วยลดความตึงเครียด ผ่อนคลายอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ จึงสามารถป้องกันโรคซึมเศร้าได้
- การดื่มกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้งเป็นวิธีแก้อาการเมาค้างได้ผลที่สุด เพราะกล้วยจะช่วยให้ กระเพาะอาหารสงบลง ส่วนน้ำผึ้งจะเสริมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือด และนมช่วยปรับระดับของเหลวในร่างกายให้สมดุล
- กล้วยมีสารลดกรดตามธรรมชาติ แก้ปัญหาจุกเสียดท้องได้
- กล้วยมี วิตามินบี 6 ประกอบด้วยสารควบคุมระดับกลูโคสที่สามารถมีผลต่ออารมณ์ ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบลงได้ การกินกล้วยตอนเช้าและกินเป็นอาหารว่างระหว่างวัน จะรักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือดให้คงที่ได้ดี
- เปลือกกล้วยด้านในสามารถแก้เม็ดผื่นคันที่เกิดจากยุงกัดได้
- กล้วยเป็นอาหารที่แพทย์ใช้ควบคุมโรคลำไส้เป็นแผล เพราะเนื้อกล้วยอ่อนนิ่มพอดี มีสภาพเป็นกลางไมเป็นกรด ทำให้ลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารและเคลือบผนังลำไส้ได้ดี
- กล้วยมีฤทธิ์ช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย โดยเฉพาะในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เชื่อกันว่าหากมารดากินกล้วยทุกวัน ทารกที่เกิดมาจะมีอุณหภูมิร่างกายเย็นกว่าปกติ
- กล้วยช่วยให้เลิกสูบบุหรี่ได้เร็วขึ้น เนื่องจากมีปริมาณวิตามินซี เอ บี6 บี12 สูง และยังมีโพแทสเซียมกับแมกนีเซียมช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนได้เร็วจากการขาดนิโคติน
- มีผลวิจัยในวารสาร “The New England Journal of Medicine” ระบุว่า การกินกล้วยเป็นประจำสามารถลดอันตรายที่เกิดกับเส้นโลหิตแตกได้ถึง 40%
- ภูมิปัญญาสมุนไพรไทย เชื่อว่ากล้วยมีฤทธิ์ช่วยรักษาโรคหูดได้ โดยใช้เปลือกด้านในวางปิดลงไปบนหูดแล้วใช้แผ่นปิดแผลหรือเทปติดไว้ให้ด้านสีเหลืองของเปลือกกล้วยอยู่ด้านนอก จะทำให้หูดหายได้
ข้อที่น่าสนใจที่สุดในเรื่องสรรพคุณทางยาของกล้วย
คือ การใช้เป็นยารักษาโรคกระเพาะอาหารและอาการจุกเสียดแน่นท้อง ตำราสมุนไพรไทยระบุว่ากล้วยน้ำว้า ผงกล้วยดิบ ใช้ทำยาได้ทั้งดิบและสุก โดยเฉพาะ กล้วยดิบ นั้นมี แทนนิน สารฝาดสมานสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ดี จึงช่วยป้องกันผนังกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่ให้เชื้อโรคและของรสเผ็ดจัด เช่น พริก เข้าไปทำลายผนังเนื้อเยื่อกระเพาะลำไส้ ช่วยแก้ท้องเสียได้ดี
สำหรับกล้วยที่เพิ่งเริ่มสุกหรือห่าม ๆ ซึ่งเปลือกยังมีสีเขียวอยู่ประปรายนั้น เป็นทั้งยาและอาหารที่ดีมากสำหรับคนท้องเสีย เพราะนอกจากจะช่วยแก้ท้องเสียแล้ว ยังช่วยหล่อลื่นลำไส้เพิ่มกากเวลาขับถ่าย กล้วยกึ่งดิบกึ่งสุกนี่เองที่มีธาตุโพแทสเซียมสูงมาก เวลาท้องร่วงร่างกายจะสูญเสียโพแทสเซียมไปเยอะ การกินกล้วยห่ามจึงเป็นการชดเชยได้ดี ถ้าหากคนท้องเสียปล่อยให้ร่างกายสูญเสียโพแทสเซียม ไปมากๆอาจทำให้การเต้นของหัวใจผิดปกติถึงขั้นหัวใจวายได้ กล้วยห่ามยังมีสารเซโรโทนินช่วยออกฤทธิ์กระตุ้นให้ผนังกระเพาะอาหารสร้างเยื่อเมือกมากขึ้น จึงช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร
สำหรับวิธีทำผงกล้วยดิบเป็นผงยาเพื่อรักษาอาการของโรคกระเพาะอาหารแบบจริง ๆ จัง ๆ นั้น มีขั้นตอนง่าย ๆ ทำด้วยตัวเองดังนี้
เริ่มจากการนำกล้วยดิบมาฝานเป็นแว่นบางนำไปตากแดดจัด ๆ ให้แห้ง หรืออบที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซีย ห้ามใช้ความร้อนสูงกว่านี้เด็ดขาด เพราะถ้าใช้ความร้อนสูง สารในกล้วยที่มีฤทธิ์รักษาโรคกระเพาะนั้นจะสูญเสียไป หรือหมดฤทธิ์ทันที
เริ่มจากการไปหากล้วยดิบที่แก่จัด 1 หวี มาปอกเปลือก หั่นแว่น ตากแดด เลือกวันที่มีแดดจัดๆ หน่อย ตากกันแดดเดียวก็เห็นผลแล้วค่ะ กรรมวิธีอาจจะยุ่งยากหน่อยก็ตรงการหั่นแว่นบาง เพราะกล้วยดิบมียางเหนียวหนึบติดมือติดมีด ทำค่อนข้างยาก ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง สูงจริง ๆ
หลังจากนั้น ก็นำมาวางเรียงในถาด ไม่ให้แต่ละชิ้นทับกัน เพื่อจะได้โดนแดดถ้วนทั่ว ใช้เวลาตากอยู่ไม่กี่ชั่วโมง ช่วงใกล้เที่ยงไปจนถึงบ่ายสามโมงก็เรียบร้อย แห้งสนิท พอจับดูแผ่นกล้วย เมื่อเห็นว่าแห้งดีแล้วก็เอามาตำด้วยครกหินจนได้เป็นผงยาออกมาได้ในที่สุด
ผงกล้วยดิบ วิธีชงกินก็ไม่ยุ่งยากอะไร แค่ละลายผงกล้วยกับน้ำร้อน หรือจะเติมน้ำผึ้งด้วยก็ได้ กินวันละ 3 คร้้ง ก่อนอาหาร ต้องยอมรับว่ายาผงกล้วยทำเองนี่ได้ผลตามสรรพคุณจริง ๆ แม้จะไม่ได้ทำให้อาการโรคกระเพาะอาหารหายขาดเป็นปลิดทิ้ง แต่ก็ช่วยบรรเทาอาการลงไปได้กว่าครึ่ง ทำให้เราไม่ต้องพึ่งพายาหมอสั่งมากจนเกินไปนัก ชงเป็นเครื่องดื่มรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
ลักษณะเป็นน้ำข้นเหนียว รสชาติหวานนิด ๆ
ทราบมาว่าผงกล้วยดิบนี้สามารถทำได้โดยใช้ได้ทั้งกล้วยน้ำว้าดิบหรือกล้วยหักมุกดิบ ซึ่งสรรพคุณในการรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารนั้นผ่านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาหมดแล้ว ระหว่างที่รักษาอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหารด้วยผงกล้วยดิบอยู่ ฉันก็กินกล้วยสุกตามเข้าไปด้วย ปรากฏว่าช่วยเป็นยาระบายได้อย่างดี เพราะกล้วยสุกมีสารเพกติน (pectin) สูง ช่วยเพิ่มกากอาหารและมีเมือกลื่นช่วยให้ขับถ่ายสะดวก ปลอดโปร่งโล่งทวารดีจริง ๆ